เรียกร้องสิทธิลูกจ้างโฮย่า เจรจาไม่เป็นผล
ความคืบหน้าพนักงานบริษัทโฮยากลาสดิสค์
(ประเทศไทย) จำกัด เรียกร้องความเป็นธรรมกรณีถูกเลิกจ้าง การเจรจาไม่เป็นผล
ความคืบหน้าพนักงานบริษัทโฮยากลาสดิสค์
(ประเทศไทย) จำกัด
เรียกร้องความเป็นธรรมกรณีบริษัทมีหนังสือแจ้งพนักงานว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานฝ่ายผลิตโรงงาน
2 ทั้งหมด เกือบ 2,000 คน การเจรจาไม่เป็นผล
วานนี้ (9 ธ.ค.54)
ที่ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
มีการประชุมระหว่าง นายวชิระ ศรีบัวชุม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน
นายเทเคมิ มิยาโมโต (TAKEMI MIYAMOTO) ประธานบริษัทโฮยากลาสดิสค์
(ประเทศไทย) จำกัด นายโตชิอะกิ โยชิมูระ (TOSHIAKI YOSNIMURA) ผู้จัดการทั่วไป เจ้าหน้าที่แปลภาษา นายอัครเดช ชอบดี
ประธานสหภาพแรงงานอิเลคทรอนิคส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์ และตัวแทนพนักงานบริษัท
รวม 10 คน กรณีบริษัทโฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) จำกัด
มีหนังสือแจ้งพนักงานบริษัทโฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) จำกัด
ว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานฝ่ายผลิตโรงงาน 2 เนื่องจากบริษัทประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบ
จึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานฝ่ายผลิตโรงงาน 2 ทั้งหมด เกือบ
2,000 คน และพนักงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรงของโรงงาน
2 มีอัตรากำลังเกินความจำเป็น
จากการประกาศเลิกจ้างของบริษัททำให้พนักงานและสหภาพแรงงานอิเลคทรอนิคส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์เห็นว่ามีความไม่เป็นธรรม
นายเทเคมิ มิยาโมโต
กล่าวถึงสาเหตุที่บริษัทจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานฝ่ายผลิตโรงงาน 2 เกือบ 2,000 คน ว่า
เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าตึก ค่าใช้ไฟฟ้า
ค่าดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ประกอบกับเครื่องจักรขนาดใหญ่บางประเภทไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
จึงจำเป็นต้องปิดโรงงาน 2 ก่อน วอนพนักงานเห็นใจบริษัท
การจ่ายค่าตอบแทนในอัตรา 75% ของเงินเดือนที่ได้รับ
ทางบริษัทยินดีจ่ายชดเชยตามที่กฎหมายแรงงานได้กำหนดไว้
การเจรจาจบลงอย่างไม่เป็นผล
หลังยืดเยื้อมากว่า 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00
- 14.00 น. และมีการนัดประชุมเจรจาใหม่ในเวลา 15.00 น. ทั้ง 2 ฝ่ายยังยืนยันในข้อเรียกร้องของตน หาข้อยุติไม่ได้
ผู้บริหารระดับสูงและคณะของบริษัทโฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) จำกัด
จึงเดินทางกลับในเวลา 16.00 น.
ขอขอบคุณข่าวจาก สวท.ลำพูน